​

“การซักแห้ง” ตามความเข้าใจทั่วไปคือการซักแบบไม่ใช้น้ำ ถ้าไม่ใช้น้ำแล้วจะใช้อะไรซัก คำตอบ ก็คือ “น้ำมัน” นั่นเอง

​การซักแห้ง Dry Clean หรือ การซักน้ำมัน  Perchloroethylene หรือ PERC เป็นน้ำมันชนิดที่ใช้ในการซักแห้ง ข้อดีก็คือทำให้ผ้าบาง ชนิดซักแล้วไม่หด คงสีสันของเสื้อผ้าไว้ ส่วนข้อเสียนั้นก็มีอย่างเช่น ไม่สลายไปตาม ธรรมชาติ นั่นก็หมายถึงว่าเมื่อเราใช้น้ำมันแล้วทิ้ง ส่วนที่เราทิ้งมันก็จะไปทำลายสิ่งแวดล้อม

Perchloroethylene หรือ PERC ยังเป็นสารก่อมะเร็งได้อีกด้วย คือเมื่อได้รับการสัมผัส หรือสูดดมเป็นประจำ ซึ่งนั่นก็คือผู้ซักนั่นเอง ยังรวมไปถึงผู้รีดผ้าอีกด้วยเพราะเมื่อผ้าถูก ความร้อน น้ำมันที่เคลือบอยู่ที่ผิวผ้าจะระเหยออกมา ผู้รีดก็จะสูดดมไปอย่างหลีกเลี่ยงมิได้ แม้กระทั่งผู้ที่สวมใส่เองก็ตาม อย่างเมื่อผิวกายเราได้สัมผัสกับผ้าที่ผ่านการซักด้วยน้ำมัน ที่นี้น้ำมันที่เคลือบอยู่บนผ้านั้นก็จะสัมผัสกับผิวเราได้โดยตรง

ในหลายประเทศแถบยุโรป รวมไปถึงอเมริกาและแคนาดาเองก็ พยายามที่จะเลิกใช้ Perchloroethylene หรือ PERC เนื่องจากเป็นสารที่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่อร่างกายและยัง ทำลายสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

การซักแห้งด้วยระบบ Wet Clean หรือ การซักเปียก ก็คือการซักแห้งที่ใช้น้ำเป็นตัวหลัก ในการซัก ซึ่งใช้ร่วมกับเคมีสำหรับ Wet Clean โดยเฉพาะ การซักแบบ Wet Clean นี้ สามารถซักผ้าได้ทุกชนิด ขึ้นอยู่กับเคมีที่ใช้ให้เหมาะสมกับชนิดผ้า ไม่ว่าจะเป็น ผ้าไหม ผ้าขนสัตว์ หนังแท้และเทียม ผ้าที่มีลูกปัด เลื่อมต่างๆ ผ้าใยธรรมชาติต่างๆ ผ้าเนื้อผสม ฯลฯ

​

​

​

รีดผ้ายังไงให้เรียบ…???”“ก็พรมน้ำเยอะๆ”, “ฉีดน้ำยารีดผ้าเรียบ”, “ใช้ไฟแรงๆ”, “ใช้เตารีดไอน้ำรีด” หรือสุดท้ายก็ “อย่าซื้อผ้าที่ยับง่าย”  อ้าว..ซะงั้น

​

วันนี้เราจะเอาเทคนิครีดผ้าให้เรียบมาฝาก เป็นเทคนิคง่ายๆ แต่ทำยาก ^_^ เทคนิคที่ว่าก็คือ “รีดช้าๆครับ”​อับดับแรกเราควรมาเริ่มต้นที่การเตรียมความพร้อมในการรีดผ้าก่อน

อย่างแรกเลยต้องแยกเสื้อผ้าที่จะรีดก่อน ก็คือ เสื้อยืด เสื้อเชิ๊ต เสื้อสตรี กางเกงยีนส์ หรือผ้าเนื้อบาง เนื้อหนา เพราะเราควรรีดผ้าเนื้อบางก่อนโดยเริ่มจากใช้ไฟอ่อนๆ แล้วค่อยๆเพิ่มอุณภูมิเตารีดตามลักษณะเนื้อผ้าที่หนาขึ้น ซึ่งจะทำให้เราประหยัดค่าไฟได้มากขึ้น เพราะเราไม่ต้องมาคอยเพิ่มๆ ลดๆ อุณภูมิเตารีดในขณะรีดผ้า

ต่อมาคือ ในการรีดผ้าแต่ละชิ้นนั้น ให้เรารีดส่วนที่เล็กหรือรีดยากก่อน เช่น ปก แขน ไหล่ ส่วนลูกไม้ ระบาย จีบหรือกระเป๋า     ถ้าเสื้อผ้าที่มีของตกแต่งบนเสื้อผ้าเช่น มุก ลูกปัด เลื่อม เพชร ลายปักหรือลายสกรีน ให้รีดด้านใน หรือถ้าจำเป็นก็ต้องใช้ผ้ามาคลุมเพื่อรองรีดก่อน อย่าใช้เตารีดรีดโดนสิ่งเหล่านี้โดยตรงเพราะจะทำให้หลุดลอกเสียหายได้

เสื้อผ้าสีเข้มทุกชนิดไม่ควรรีดด้านนอกเพราะจะทำให้เกิดรอยเงาตามตะเข็บผ้าได้  ถ้าจำเป็นก็ต้องใช้ผ้ามาคลุมเพื่อรองรีดก่อน

การปรับอุณภูมิให้เหมาะกับผ้าแต่ละชนิดก็เป็นส่วนสำคัญเช่นกัน ผ้าเนื้อบาง ผ้าไหม ผ้าขนสัตว์ ผ้าไนลอน ควรใช้อุณภูมิต่ำถึงปานกลาง  ส่วนผ้าเนื้อหนา ผ้ายีนส์ ผ้าฝ้าย ผ้าลินิน ควรใช้อุณภูมิปานกลางถึงอุณภูมิสูง

การพรมน้ำก่อนรีดผ้าก็เป็นวิธีช่วยให้รีดผ้าง่ายขึ้น โดยการพรมน้ำให้ทั่วแล้วแล้วพักผ้าทิ้งไว้ 5-10 นาที แล้วค่อยรีดเพื่อให้ใยผ้าคลายตัวก่อน แต่ควรแยกผ้าสีไว้ตากหากด้วย ป้องกันสีตกใส่กัน

วิธีการรีดผ้าแต่ละประเภท โดยจะแบ่งตามประเภทเสื้อผ้าทั่วๆไป

เสื้อยืด ควรรีดด้านในเพราะจะทำให้สีเสื้อไม่ซีดหรือหมองเร็ว ถ้ามีปกก็รีดปกก่อน แล้วรีดแขน

เสื้อเชิ๊ต รีดปกก่อน ตามด้วยรีดแขน หัวไหล่ แล้วก็รีดไล่ลงมาตั้งแต่ด้านหน้าเสื้อตรงกระดุมคอปก ค่อยๆขยับรีดด้านหน้าเสื้อให้หมดก่อนหนึ่งด้าน แล้วเลื่อนด้านหลังเสื้อมารีดต่อ จนวนไปรีดด้านหน้าเสื้ออีกข้างนึง

เสื้อสตรี ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของเสื้อแต่ละตัว แต่ให้ยึดหลักที่ว่า “ให้รีดส่วนที่เล็กหรือรีดยากก่อน” ส่วนพื้นที่ใหญ่ๆ กว้างๆ ของเสื้อ ให้รีดทีหลัง

เสื้อสูท ด้านในที่เป็นผ้าลื่นๆ มันๆ สามารถใช้ไอน้ำพ่นให้เรียบได้โดยไม่ต้องใช้เตารีด ด้านนอกก็รีดผ้าตามปกติ แต่อย่าลืมว่าควรรองด้วยผ้าก่อน เพื่อไม่ให้เป็นรอยเงามันที่เนื้อผ้า

ชุดราตรี ให้ดูที่เนื้อผ้าว่าเป็นแบบใดก่อน ใช้รีดผ้าธรรมดาหรือรีดผ้าแบบใช้ไอน้ำพ่น อย่างเช่นผ้าใยสังเคราะห์ ผ้าชีฟอง ผ้าลูกไม้หรือผ้ากำมะหยี่เป็นต้น

กางเกงผ้า ให้กลับด้านในมารีดก่อน คือรีดช่วงขอบเอวจบถึงเป้าแล้วจึงกลับไปรีดด้านนอกปกติ ควรระวังเรื่องตะเข็บผ้าและกระเป๋าด้วย เพราะถ้ารีดทับตะเข็บผ้าและกระเป๋า จะทำให้เป็นรอยเงามันได้ ควรใช้ผ้ารองรีดวางไว้หนึ่งชั้นก่อนรีดหรือรีดจากด้านในก่อนให้เรียบร้อย

กางเกงยีนส์ ก็ใช้วิธีเดียวกันแต่จะรีดง่ายกว่า

ที่นี้ก็ขั้นตอนที่สำคัญมากๆ เลยก็คือ… “รีดช้าๆๆๆๆๆๆ”

ใช่ครับ.. “รีดช้าๆ” รีดผ้าเหมือนกับคนอยากอู้งานครับ ลองดูซักตัวครับแล้วจะรู้ว่าเรียบจริงๆ พอผ้าเย็นแล้วก็ยังเรียบอยู่

*** น้ำยารีดผ้าเรียบนั้นก็เป็นอีกทางที่ช่วยได้มากครับ แต่ผมพยายามหลีกเลี่ยงที่จะไม่ใช้ครับ ไม่ว่าผ้าชนิดใดก็ตาม เพราะเมื่อเราใส่เสื้อผ้าที่ผ่านการใช้น้ำยารีดผ้าเรียบนั้น เวลาเหงื่อออก น้ำยาตัวนี้จะทำปฏิกิริยากับเหงื่อเราครับ ทำให้เป็นผื่นง่าย ยิ่งคนผิวแพ้ง่ายแล้วยิ่งไปกันใหญ่ครับ แล้วยังมีส่วนทำให้กลิ่นตัวแรงขึ้นด้วยครับ บางคนมีเม็ด มีผื่นขึ้น ไปหาหมอ หมอบางคนบอกแพ้เหงื่อ (แสดงว่าห้ามเหงื่อออกหรืออย่างไร) ดังนั้นผมจึงหลีกเลี่ยงและไม่ใช้น้ำยารีดผ้าเรียบ ยกเว้นผ้าที่รีดยากจริงๆ เช่น เสื้อเชิ๊ตที่ผ้ายับง่ายมาก ผ้าลินินหรือผ้าไหมที่ต้องการความแข็งตัวของเนื้อผ้า (แล้วแต่ความต้องการของลูกค้า)

​

รับซักผ้ารายเดือน รายชิ้น  ราคาพิเศษ